เล่าทริปงอก สิงคโปร์ 4 วัน 4 คืน - Part 1

สวัสดีครับกลับมาอีกครั้งกับ blog เล่าประสบการณ์ ในครั้งนี้เป็นทริปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองใน 4 วัน 4 คืน หลายๆคนอาจจะงงทำไมเป็น 4 วัน 4 คืน ไม่ 5 วัน 4 คืนหรอ เดี๋ยวอ่านต่อจะเข้าใจครับ 😅 และใน blog นี้จะพยายามให้ข้อมูลทั้งหมดเท่าที่ให้ได้ เผื่อเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน

ก่อนเดินทาง

เริ่มต้นวางแผนทริป

จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดมาจากการที่ร่างกายต้องการไปเที่ยวหลังจากหมกอยู่ในห้องมานาน จึงได้เปิดปฏิทินดูว่ามีวันหยุดไหนบ้างที่จะพอไปเที่ยวได้ โดยทั้งหมดเริ่มต้นในเดือนกันยายนหรือก่อนเดินทางเพียง 1 เดือนเท่านั้น

จากการดูปฏิทินช่วงเวลาเดียวที่เป็นไปได้ วันหยุด + ไม่ติดภารกิจอื่นใด มีเพียงแค่  3 วันคือ 13 - 15 ตุลาคมเพียงเท่านั้น จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการไปเที่ยวว และแน่นอนว่าเวลาที่น้อยนิด สิงคโปร์จึงเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุด จากเวลาเดินทางเพียง 2 ชม.

หลังจากตัดสินใจเป้าหมายและช่วงเวลาได้แล้วสิ่งแรกที่ทำเลยก็คือเช็คราคาตั๋วเครื่องบินทันที

ก็ได้เจอกับเที่ยวบินนี้ของ AirAsia ที่ราคาดีที่สุด แต่เนื่องจากเวลาค่อนข้างไม่ค่อยพอใจเนื่องจากถึงบ่ายสองเวลาเที่ยวหายไปครึ่งวันแล้วแถมวันกลับยังต้องกลับตั้งแต่เช้าซึ่งดูจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ อยากใช้เวลาเต็มๆมากกว่า

เลยกลายเป็นทริปงอกทันทีโดยการเปลี่ยนวันกลับจากวันอาทิตย์เป็นเช้าวันจันทร์ เนื่องจากเวลาที่สิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชม. ดังนั้นการบินกลับมาจากสิงคโปร์ถึงจะ เป็น 2 ชม. แต่เหมือนเราได้ย้อนเวลา 1 ชม. เลยสามารถกลับมาทำงานเช้าวันจันทร์ได้ทัน ดังนั้นเลยเอาตามแผนนี้เลยละกันน

หลังจากตัดสินใจได้แล้วก็ไปต่ออายุ passport ที่หมดอายุไปนานแล้ว 🥲

แผนเที่ยว

เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ไปเที่ยวสิงคโปร์ดังนั้นเป้าหมายที่อยากจะไปหลักๆก็จะมี Garden by the Bay, Universal Studio เป็น 2 เป้าหมายหลักนอกนั้นถือเป็นของแถม55

เนื่องจากสถานที่ที่อยากไปนั้นต้องซื้อตั๋วเข้าด้วยเลยได้ค้นหาตั๋วไปก่อน จะได้ล็อคแผนไว้ด้วยและมันถูกกว่าไปจองหน้างาน โดย เว็บที่มีตั๋วขายนั้น ผมใช้ kkday ในการจอง

และเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีเพื่อนที่เพิ่งไปสิงคโปร์มาก่อนได้ขายสิ่งที่หน้าสนใจมานั่นก็คือ Singapore reward ที่มีกิจกรรมฟรีให้เราลงทะเบียนได้ฟรี มีหลายอย่างให้เลือกเลยโดยผมได้เลือกอันนี้

เป็นกินข้าวล่องเรือซึ่งจากรูปดูสวยมากก เลยได้กดจองไปผมได้ช่วงเวลา 4โมงครึ่ง

โดยหลังจากนั่งคิดนอนคิดมาหลายวันสรุปแผนออกมาได้ตามนี้

วันที่ 1 - 13 Oct

  • Singapore Flyer + Garden By the bay

วันที่ 2 - 14 Oct

  • Singapore Changi Jewel
  • Singapore River Dining Cruise (Singapore Reward)

วันที่ 3 - 15 Oct

  • Universal Studio

วันที่ 4 - 16 Oct

  • บินกลับไทย

ที่พักหลังจากค้นหามาได้ตัดสินใจเป็นที่ MET A Space Pod at Arab Street เนื่องจากอยู่ใกล้ MRT แถมมีราคาไม่แพงด้วย -> Agoda

หลังจากได้แผนการแล้วต่อไปก็เป็นการจองตั๋ว

เมื่อกำลังจะจองเที่ยวบินก่อนตอนแรกเจอว่าต้องใช้เลข passport ด้วย แต่ ณ ตอนนั้นยังไม่ได้ passport เลยยังไม่ได้จอง พอได้เลขมาอีกที เอ๊า ไม่ใช้เลข passport ซะงั้นกลายเป็นมาจองช้าเลย แถมเที่ยวบินที่ดูไว้ตอนแรกราคาขึ้นแล้วเลยกลายเป็นต้องมาหาเที่ยวบินใหม่จนได้เจอกับเที่ยวบินนี้ของ jetstar

สำหรับรูปนี้ใครเห็นอะไรแปลกๆ ถือว่าคุณตาดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ผมไม่เห็น5555

เฉลย เวลาบินผมจองผิดมันเป็น PM ดังนั้นมันคือ 3 ทุ่ม!! ถึงเที่ยงคืน แย่ละะะะ ตั๋วเที่ยวก็จองไปแล้ว จะทิ้งไม่ได้ เลยได้ติดต่อกับสายการบินจนสามารถเปลี่ยนเที่ยวบินได้โดยเป็นเวลาเดิมแต่ลดไป 1 วัน(มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม) โดยเป็นเที่ยวบินนี้

เคลียปัญหาเรื่องเที่ยวบินไปได้ แต่ว่าไปถึงสนามบินที่สิงคโปร์เที่ยงคืนแล้วจะไปอยู่ไหนนั่นน ที่พักจองไว้แค่ 3 คืน เลยกลายเป็นต้องนอนอยู่สนามบิน ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ทริปนี้กลายเป็น 4 วัน 4 คืน

วันเดินทาง

เดินทางไปสนามบิน

เมื่อมาถึงวันเดินทางวันแรกเนื่องจากเที่ยวบินของผมไม่สามารถเช็คอินล่วงหน้าด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ ดังนั้นจึงควรรีบไปสนามบินอย่างน้อยๆ 3 ชม. ก่อนการเดินทาง  แล้ววันเดินทางวัน พฤ วันทำงานซะด้วยย บิน 3 ทุ่ม ดังนั้น 6 โมงนิดๆต้องถึงสนามบินละ กว่าจะเลิกงานพร้อมเดินทางกันนั้นก็ 6 โมงนิดๆแล้ว แถมพอออกจากหอไปสนามบินนั้น รถดันติดซะด้วยยย กว่าจะพ้นโซนรถติดไปถึงสนามบินก็ทุ่มครึ่ง ถึงกับรีบวิ่งไปเคาน์เตอร์ check-in ในทันที แล้วก็เข้า gate

หลังจากนั้นก็หิว เดินหาไรกินแต่ละอย่างแพงโคตรร สิ่งที่ถูกและน่ากินสุดคือ potato corner ที่ราคาพอรับไหว หลังจากนั้นก็นั่งกินรอเวลา gate เปิด

ในเกท

สภาพในเกท ณ เวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง คนยังไม่ค่อยเยอะมากมีที่นั่งชิวๆ นั่งรอไปกว่าจะเปิดให้ขึ้นเครื่องนานมากก เลทจากเวลา boarding ไปเกือบ ชม.

ที่นั่ง
บนเครื่อง

ที่นั่งบนเครื่องบินคนไม่แน่นว่างหลายที่เลยที่ที่ผมนั่งมี 3 ที่นั่งมีคนนั่งจริง 2 คนสบายๆเลย ได้ที่นั่งข้างปีกด้วยเยี่ยมไปเลย

ริมหน้าต่าง

หลังจากนั้นก็บินใช้เวลาในการบิน 2 ชม ก็ถึง เวลาสิงคโปร์ประมาณ เที่ยงคืนครึ่ง เร็วกว่าที่คิด พอเครื่องลงได้ลงเครื่องค่อนข้าวเร็วมาก

ทางเข้าอาคารสนามบินหลังลงเครื่อง

พอลงมาจากเครื่องในทางเดินของที่นี่ทำออกมาสวยมากก แอร์โคตรเย็น คนโล่งๆ หลังจากนั้นก็เดินไปรับกระเป๋าและไปผ่าน ตม. เป็นแบบเครื่องอัตโนมัติสำหรับคนไทยใช้ได้เลย คนไม่เยอะไม่ถึง 5 นาทีผ่านได้เลย และแน่นอนว่าผ่านสบายชิวๆ ก็แย่ละ55 เครื่องที่ผมเข้ามีปัญหา แสกนม่านตาไม่ติดสักทีกว่าจะผ่านได้ พักนึงเลย🥲 หลังจากออกมาได้ทีนี้แหล่ะเอาไงดี5555 หาที่อยู่จนกว่าจะถึงเช้า ที่สนามบินชางงีมีอยู่ 4 Termial ซึ่ง Terminal ที่ผมลงเป็น Terminal 4 เลยจะนั่งรถ shuttle bus ไป Jewel อ่านมาในเน็ตว่ามันเปิด 24 ชม

ที่รอรถบัสไป Terminal 1

หลังจากมาถึง Terminal 1 ที่มีทางเดินเชื่อมไป Jewel หลังจากนั้นก็เดินต่อไป Jewel หลังจากไปถึง ทุกอย่างปิดหมด!! ไหนว่าเปิด 24 ชม ม่ายยยย😭 เลยไหนๆก็มาละ อยากเห็นน้ำตกตอนกลางคืน

Jewel

เมื่อมาถึงน้ำตกปิด!! แต่ก็ยังพอมีเปิดๆไฟ ซึ่งก็สวยไปอีกแบบ มีคนนั่งๆอยู่ประปราย ก็ดูอยู่ได้แปปนึงก็ไม่รู้จะอยู่ทำไรละ เลยหาที่เดินต่อไปเรื่อยๆ เลยเดินไป Terminal 3 หลังจากมาถึงคนแทบไม่มี เหมือยเป็นสนามบินร้าง ร้างคือแบบแทบไม่มีคนเลยย แต่เปิดแอร์เปิดไฟปกติ ในสนามบินสวยมากก แต่พอไม่มีคนก็น่ากลัวใช้ได้อยู่ (ลืมถ่าย มัวแต่หาที่อยู่) หลังจากเดินไปทั่วเลยลงมาที่ชั้นอาหารของ Terminal 3

B2 Termial 3

นี่คือสภาพชั้นอาหารตอนกลางคืน ปิดแทบทุกอย่างมีร้านอาหารเปิดอยู่ 2 ร้าน

เลยได้อาหารมื้อแรกที่สิงคโปร์ รสชาติก็ใช้ได้ อร่อยดีทั่วๆไป ราคา จำไม่ได้ละ55 ประมาณ
5 SGD มั้ง ประมาณนี้ หลังจากนั้นก็เดินไปทั่วสนามบินเลยหาที่นั่งที่นอน ไปเรื่อยๆ เจอคนนอนประปรายไปหลายๆที่ แต่พอลองไปนอนจริงๆบ้างนอนไม่หลับเลย เลยนั่งเล่นไปเรื่อยๆจนถึงเช้า MRT ที่นี่รอบแรกเปิด 5.30 เลยหาที่รอไปเรื่อยๆ ทรมาณแบบ 300% โคตรอยากนอน

วันที่ 1

พอเริ่มๆเช้า 6 โมงคนก็เริ่มเยอะขึ้นเลยตัดสินใจว่าเอาหว่ะไปที่พักที่จองไว้แล้วขอ check-in ก่อนเวลา จะต้องจ่ายเพิ่มอะไรเพิ่มก็มาเถอะ ไม่ไหวละไม่งั้นตอนเย็นไปไหนไม่ไหวแน่ เลยไปที่ MRT ซึ่งที่นี่ใช้บัตรเดบิต เครดิต แตะเข้าได้เลย หรือใครไม่มีต้องไปซื้อบัตร ezlink ซึ่งเป็นบัตรแบบเติมเงินใช้ได้หลายรอบ

MRT

หลังจากเข้ามาด้านใน MRT ก็นั่งรอรถ รอบไม่ถี่มากเกือบ 10 นาทีกว่ารถจะมา

บน MRT

นี่คือสภาพรถของที่นี่สำหรับผม Airport link ของเราสภาพดูดีกว่า ที่นี่คือแบบผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน จากนั้นก็นั่งมาจนถึงสถานีที่ใกล้ที่พักที่สุดแล้วเดินต่ออีกนิดไปที่พัก

บรรยากาศตอนเช้าในเมือง

นี่คือบรรยากาศตอนเช้าในเมืองใกล้ๆ MRT bugis คนเริ่มเดินทางไปทำงานไปโรงเรียนกัน เนื่องจากเป็นเช้าวันศุกร์ เดินต่อไปไม่ไกลจนถึงหน้าที่พัก ไม่มีคนอยู่🥲 มีเบอร์โทรแปะอยู่ด้านหน้าโทรไปติดต่อไปก็ไม่มีคนรับ เข้าที่พักไม่ได้ติดต่อก็ไม่ได้ เลยกลับมาหาที่รอแถว MRT ไม่รู้จะทำไรรอดีเลยแวะกินข้าวมันไก่จะได้มีที่นั่งพยายามติดต่อกับที่พัก

ข้าวมันไก่

รสชาติค่อนข้างแปลก สรุปเลยคือไม่อร่อย555 แต่ทำไรไม่ได้ละมีเปิดอยู่ไม่กี่ร้าน แล้วเป็นร้านเดียวที่มีที่นั่ง จนติดต่อกับที่พักได้ ซึ่งเปิดให้ check-in ได้ตอน 11.30 ซึ่ง ณ เวลานั้นคือ 8 โมง ครึ่ง จะไปทำไรรอเนี่ยย ตั้ง 3 ชม. ให้นั่งรอในร้านข้าวมันไก่ 3 ชม โดนด่าแน่ หลังจากปรึกษากันเสร็จเลยตัดสินใจ อีกไม่นาน Singapore Flyer ก็เปิดแล้ว ไปเลยละกันรอบแรกเลยนี่แหล่ะ

เดินไปขึ้น MRT ไปสถานีใกล้ๆ Singapore Flyer แล้วต้องเดินต่อไปประมาณ 600m ทีนี้แหล่ะงงทางแบบ 300% คนแถวนั้นก็มีแต่นักท่องเที่ยว ชะตากรรมเดียวกันไม่รู้ทาง จนสุดท้ายเอาหล่ะเดินๆไปก่อนละกันจนมาถึง 9.50 ก่อนเวลาเปิด 10 นาที เลยหาที่ฝากกระเป๋าก่อน แล้วก็ได้เข้าตั้งแต่รอบแรกเลย ก่อนจะได้ขึ้นแคปซูล จะมีโซนที่เป็นคล้ายๆนิทรรศการ มีสื่อ มีประวัติเกี่ยวกับการสร้างประเทศสิงคโปร์แล้วก็ข้อมูลต่างๆของประเทศ ซึ่งสวยบ้างไม่สวยบ้างใช้ได้บ้างไม่ได้บ้างเข้าใจได้พังๆตามกาลเวลา แต่ไม่เป็นไร ตั้งใจมาเพื่อขึ้นแคปซูล ไม่ได้จะมาดูนิทรรศการอยู่ละถือซะว่าของแถม55

หลังจากเดินผ่านนิทรรศการเพื่อความรวดเร็ว เพื่อไปที่ขึ้น Singapore Flyer และแน่นอนว่ามาตั้งแต่เปิด ขึ้นรอบแรกๆ ได้แคปซูลส่วนตัวไปเลยครับบ

ใช้เวลาอยู่ในนั้นประมาณครึ่ง ชม ในแคปซูลแอร์เย็นๆ วิวสวยๆ ที่นั่งสุด private หลังจากลงมาก็แน่นอนว่าโซนของฝากและศูนย์อาหารใช้เวลาอยู่ที่นั่นจนถึงเวลาที่ที่พักเปิดให้เข้าได้แต่เนื่องด้วยสภาพคนอดนอนมาทั้งคืน เดินทางไม่ไหวละะ Taxi ไปที่พักเลยละกัน ที่นี่สามารถใช้แอป Grab ได้เลยไม่ต้องโหลดหรือทำอะไรใหม่ราคาก็ไม่แรงมาก ประมาณ 7 SGD

คนสิงคโปร์ขับรถได้ซึ่งมาก5555 จนกลับมาที่ที่พักอีกรอบตามเวลาที่นัดกันไว้ และแน่นอนว่าโดนจ่ายเพิ่มเพื่อ check-in ก่อนเวลา เพื่อให้ได้เข้า 11.30 จากเวลาปกติ 14.00 ในราคา
50 SGD คุ้มมั้ยไม่รู้แหล่ะแต่ตอนนั้นเท่าไหร่ก็ไหวง่วงไม่ไหวละ ขอนอนเถอะะ หลังจาก check-in เรียบร้อยก็ได้เข้าแคปซูลนอน

สวยใช้ได้เลยยแต่ก่อนจะนอนตอนเก็บๆของเพิ่งมารู้ตัวว่าทำบัตรเดบิต KTB Travel Card หายยยยยยยยย มาหายอะไรตั้งแต่วันแรกของทริปเลยวะเนี่ยย ทีนี้จะใช้อะไรจ่าย แลกเงินสดมาไม่ได้เยอะด้วย ติดต่อ support Grab ไปก็ไม่ได้เรื่องอะไร เผื่อจะตกบนรถ แต่ตอนนั้นก็เอาหว่ะ ค่อยคิดละกันไม่ไหวละ จะหลับ และก็ภาพตัดหลับ!! ตื่นอีกที 17.30 หลังจากได้นอนมีแรงกลับมาพร้อมลุยต่อ หลังจากมาตั้งสติได้ก็มาเช็คกระเป๋าตังว่าจะทำไงดีใช้อะไรแทน Travel Card ได้ มาเจอยังมีบัตร TMRW ของ UOB อยู่ และก็เพิ่งมารู้ตอนนั้นว่ามันใช้ต่างประเทศได้!! เรทแลกเงินก็ไม่ได้สูงพอๆกับแลกตามร้านรับแลกเลยรอดตัวไปในทริปนี้

หลังจากพร้อมเดินทางก็ไปลุยย และแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้และ ทริปนี้ Garden by the bay นั่นเองง นั่ง MRT ไป ไม่ไกลมาก พร้อมเดินอีกนิดหน่อยก็ถึงโดยทางที่ผมเดินไปนั้นจะเข้าทางตึกเรือ Marina Bay Sands ด้านในสวยมากก เพิ่งรู้ว่ามันเป็นโรงแรม55

ขนาดบนตึกในอาคารที่นี่ยังเต็มไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศดีมากสวยตั้งแต่ยังไม่ได้เข้า Garden by the bays เดินมาอีกไม่กี่เมตรก็เจอ สิ่งนี้

อย่างสวยยย แต่ตั้งใจจะมาดูที่นี่ตอนเปิดไฟรอมืดๆก่อนละกัน ตรงบริเวณนี้เป็นโซนเข้าได้ฟรี แต่ผมจองเข้าชม Flower dome กับ Cloud forest ไว้เลยรีบไปก่อยละกันน

หลังจากเข้ามาด้านในเป็นโดมติดแอร์เย็นสบายจัดๆ ด้านในแบ่งเป็นโซนๆเป็นดอกไม้จากทั่วโลกซึ่งทำออกมาดีมากดูรูปไปละกัน บอกเลยว่าใช้เวลาอยู่ในโดมนี้นานมากก

0:00
/

เดินตากแอร์ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ อยู่ในนั้นนานมากกจนมืด หลังจากออกมาจาก Flower dome ก็ไปเข้า Cloud forest ต่อและ ณ วันที่ไปเป็นจัดร่วมกับ Avatar ด้วยในสวนก็จะตกแต่งในธีม Avatar สวยเลย

ในนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรแต่บอกได้เลยว่าสวยมากก มาช่วงค่ำๆหน่อยไฟสวยเลย ก็อยูในนั้นค่อนข้างนาน จนหิวเลยออกมาหาไรกิน ประมาณ 2 ทุ่มได้ เดินหาไรกินขนมาจบที่ Shake Shack

หลังจากกินเสร็จก็เดินกลับไปที่เป็นเสาต้นไม่(จำไม่ได้ชื่อไร55) ก็เป็นเวลาที่เปิดไฟพอดี

สวยมากกกกกกกกก แบบสุดๆ มีคนมานั่งนอนดูเต็มเลย พออยู่ตรงนี้ได้สักพักมีประกาศโชว์ไฟกำลังจะเริ่ม ตอนนั้นแบบ อ่อ!! มันมีโชว์นี่หว่า มาได้จังหว่ะจัดๆ สวยมากกก คลิปมันยาวไม่แปะละกัน55  แล้วก็อยู่ตรงนั้นไปอีกนานนนนน จนสี่ทุ่มจนได้ออกจากตรงนั้น และด้วยความยังไม่อยากกลับเลยเดินข้ามไปอีกฝั่งที่เป็นห้างติดกับ Marina Bay แล้วก็ไปเจอแสดงไฟพอดี

จังหว่ะดีจัดๆอีกละ เลยอยู่ดูตรงนั้นไปอีกพักนึงเลย แล้วก็เดินเล่นแถวๆนั้นวิวเมืองสวยมากก

หลังจากนั้นก็กลับที่พักในเวลาเกือบจะ 5 ทุ่ม สภาพหมดแรง55

หมดวันแรก ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนทั้งหมดใน blog เดียวแต่ดูแล้วจะยาวไปขอตัดเป็นอีก part ละกันน แล้วก็ สรุปรวมค่าใช้จ่าย ทั้งหมดจะอยู่ใน Part 2 นะครับ สำหรับใครที่อ่านมาจนจบก็ขอบคุณมากครับที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ฝากติดตาม Part 2 ต่อด้วยนะครับ ขอบคุณครับ😊🙏

Tags

Witchayut Gerdchai

Software Engineer คนนึง